เรเยสเปิดตัวภาพยนตร์ของเขาเมื่ออายุ 13 ปีในภาพยนตร์ ค.ศ. 1985 เรื่องเดอะลาสต์ดรากอน ในปีเดียวกันนั้นเขาได้ผสมโรงกับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และบริจิตต์ นีลเซน ในซอนญ่า ราชินีเมืองหิน ในช่วงเวลานี้ เขายังมีผลงานละครโทรทัศน์ของเขาเองอย่างไซด์คิกส์ ซึ่งเป็นภาคแยกของวอลต์ ดิสนีย์ พิเศษดั้งเดิมคือเดอะลาสต์อิเล็กทริกไนท์ เคียงข้างกิล เจอราร์ด ซึ่งนำเสนอโดยไมเคิล ไอส์เนอร์[3] นอกจากนี้ เขายังปรากฏในตอนของซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมอย่างยอดคนสมองเพชรในปี ค.ศ. 1988[4] เรเยสมีบทบาทนำในนินจากระแทกคลื่นบ้า, ขบวนการมุดดินนินจาเต่า 2 ซึ่งเป็นภาพยนตร์เต่านินจาภาคสองในบทคีโนซึ่งเป็นเด็กส่งพิซซา นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นสตันต์การต่อสู้ให้แก่โดนาเทลโลในภาพยนตร์เรื่องแรกของเต่านินจา[5] ต่อมาเขาปรากฏตัวในภาพยนตร์ เช่น คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด 2 โดยรับบทซิง[6] และในโคตรคนล่าขุมทรัพย์ป่านรก เคียงข้างนักมวยปล้ำดับเบิลยูดับเบิลยูอี ดเวย์น "เดอะร็อก" จอห์นสัน[5] นอกจากนี้ เรเยสได้เป็นนักแสดงนำรับเชิญสามตอนในกังฟู: เดอะเลเจนด์ค็อนทีนยู เคียงข้างเดวิด คาร์ราดีน[7]

ในปี ค.ศ. 2006 เรเยสได้เป็นพิธีกรในไฟนอลฟู ซึ่งเป็นเรียลลิตีโชว์ศิลปะการต่อสู้ของเอ็มทีวี[8]

เรเยสมีสถิติการต่อสู้ระดับอาชีพที่ชนะ 3 ครั้ง แพ้ 0 ครั้งในสไตรก์ฟอร์ซ ซึ่งเป็นองค์การศิลปะการต่อสู้แบบผสมขนาดใหญ่ แต่เขาเริ่มจากองค์การมวยไทยและคิกบ็อกซิงมาก่อน เออร์นีได้ต่อสู้กับอ็องตอนี เอลเคอิม ผู้เป็นแชมป์สมาคมคิกบ็อกซิงโลก และสมาคมกีฬาคาราเต้นานาชาติ โดยเรเยสเป็นฝ่ายน็อกแชมป์ดังกล่าวได้ในยกที่ 3 ส่วนการต่อสู้ในสองครั้งถัดไปเขาเป็นฝ่ายชนะโดยกรรมการตัดสิน ประกอบด้วยชนะการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อเวสนา ธัชญ์[9] ซึ่งออกอากาศทางช่องอีเอสพีเอ็น ส่วนการต่อสู้ของเออร์นี เรเยส จูเนียร์ กับอ็องตอนี เอลเคอิม ก็ออกอากาศทางช่องอีเอสพีเอ็นเช่นกัน[10][11][12][13]

เรเยสได้ทำหน้าที่สตันต์โมชันแคปเจอร์ในภาพยนตร์ เช่น อวตาร และอลิซในแดนมหัศจรรย์[14] เขายังรับบทเป็นนักรบสุสานในขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 4: อาณาจักรกะโหลกแก้ว ซึ่งถูกฆ่าโดยลูกดอกพิษของเขาเอง นอกจากนี้ เรเยสเป็นนักแสดงนำรับเชิญในเอ็นซีไอเอส: ลอสแอนเจลิส ตอน"ทะเลสาบน้ำแข็ง" โดยรับบทเป็น"เจย์ ธาภา" ทหารเนปาลที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้วยมีด